Past Perfect Continuous Tense คือ อดีตกาลสมบูรณ์แบบกำลังกระทำ ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตและดำเนินต่อเนื่องเรื่อยมา จนกระทั่งมีอีกเหตุการณ์หนึ่งในอดีตเข้ามาแทรก โดยมีโครงสร้างของประโยค ดังนี้

จากโครงสร้างของประโยค จะเห็นได้ว่าเป็นการนำโครงสร้างของ 2 Tenses มารวมกัน คือ Past Perfect Tense ( S+had+v3) และ Present Continuous Tense (S+is,am,are+v-ing) มาเชื่อมต่อรวมกันเป็น Past Perfect Continuous Tense (S+had+been+v-ing) โดยเปลี่ยน is,am,are เป็น been (v3) ตามโครงสร้าง Perfect Tense

ส่วน Infinitive หรือ Verb1 ในโครงสร้าง Continuous Tense นั้น มีหลักการเติม ing ดังนี้ (อ่านเพิ่มเติม) และมีคำกริยาบางคำที่ไม่สามารถนำมาใช้เติม ing ในรูปของ Continuous Tense ได้ ซึ่งเราเรียกคำกริยากลุ่มนี้ว่า stative verbs คำกริยาแสดงสภาวะ (อ่านเพิ่มเติม)

หลักการใช้ Past Perfect Continuous Tense

เราใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ในอดีต โดยเหตุการณ์หนึ่งได้เกิดขึ้นก่อน ดำเนินต่อเนื่องเรื่อยมา จนกระทั่งมีอีกเหตุการณ์หนึ่งเข้ามาแทรก เช่น

  • Book had been drinking milk out the carton when mom walked into the kitchen. (บุ๊คดื่มนมหมดกล่องตอนที่แม่เดินเข้าไปในห้องครัว)
  • I’d been working at the company for 6 years when it went out of business. (ผมทำงานที่บริษัทมาเป็นเวลา 6 ปีเมื่อบริษัทเลิกกิจการ)
  • The program had been working well since 1970 before it was terminated. (โปรแกรมทำงานได้ดีตั้งแต่ปี 1970 ก่อนที่มันถูกยกเลิก)
  • Jane’d been running for 15 kilometers a day before she broke her leg. (เจนวิ่ง 15 กิโลเมตรต่อวัน ก่อนที่เธอจะขาหัก)

จะเห็นได้ว่า เราใช้ Past Perfect Continuous Tense กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน ดำเนินต่อเนื่องเรื่อยมา จนกระทั่งมีอีกเหตุการณ์หนึ่งเข้ามาแทรก เหตุการณ์ที่เข้ามาแทรก เราใช้ Past Simple Tense

  • Peter had been throwing rocks at Joy’s window for 5 minutes before she came out on the balcony and said “ Hi, Peter. “ (ปีเตอร์ขว้างก้อนหินที่หน้าต่างของจอยเป็นเวลา 5 นาที ก่อนที่เธอจะออกไปที่ระเบียงและพูดว่า “สวัสดี ปีเตอร์”)
  • Had Jane been teaching English in Thailand for more than a year before she left for Laos? (เจนสอนภาษาอังกฤษในประเทศไทยมากว่า 1 ปี ก่อนที่เธอเดินทางไปลาวใช่มั้ย)
  • Paul had not been studying Thai very long before he moved to Thailand. (พอลเรียนภาษาไทยไม่นานก่อนที่เขาย้ายไปอยู่ประเทศไทย)

เรามักจะใช้ when (เมื่อ,ขณะที่) before (ก่อน) เป็นตัวเชื่อมประโยคใน Past Perfect Continuous Tense

  • when และ before ตามหลังด้วย Past Simple Tense

เราใช้ Past Perfect Continuous Tense คู่กับ Past Simple Tense กับเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงแล้วในอดีตทั้ง 2 เหตุการณ์ โดย Past Perfect Continuous Tense เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน ดำเนินต่อเนื่องเรื่อยมา จนกระทั่งมีอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เป็น Past Simple Tense เข้ามาแทรก

เราใช้ Past Perfect Continuous Tense นี้ เพื่อที่จะเน้นย้ำการกระทำในอดีตที่ได้ดำเนินต่อเนื่องเรื่อยมา จนกระทั่งมีอีกเหตุการณ์หนึ่งเข้ามาแทรก

นอกจากนี้ เรายังใช้ Past Perfect Continuous Tense บอกถึงสาเหตุและผลของการกระทำในอดีต ได้อีกด้วย เช่น

  • Cindy gained weight because she’d been overeating. (ซินดี้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเพราะเธอกินมากเกินไป)
  • They failed the final test because they had not been attending class. (พวกเขาสอบปลายภาคตก เพราะพวกเขาไม่ได้เข้าชั้นเรียน)

เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่เราใช้ Past Simple Tense ร่วมกับ Past Perfect Continuous Tense นอกจากนี้เรายังใช้คู่กับ Past Perfect Tense และ Past Continuous Tense อีกด้วย โดย Past Simple Tense นี้ จะใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทีหลังเสมอ..